อย่าเพิ่งตกหลุมพลาง DEEPSEEK AI: กลยุทธ์การใช้ AI ในการตลาดที่ต้องปรับตัว

ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังมาแรง และกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำการตลาด หลายคนคงได้ยินเกี่ยวกับ AI รุ่นต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยในธุรกิจ แต่เมื่อ Deepseek AI ที่มีราคาถูกกว่า ChatGPT ถึง 44 เท่า เปิดตัวแล้ว หลายคนอาจเริ่มตื่นเต้นและคิดว่า AI ตัวนี้คือทางเลือกใหม่ที่ควรใช้ในการทำงาน อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจใช้งาน AI ในการตลาดควรคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ และนี่คือเหตุผลที่ทำไมไม่ควรรีบตัดสินใจหรือเปลี่ยนกลยุทธ์ทั้งหมดเพียงแค่เจอ AI ใหม่ ๆ

พัฒนาการของ AI: จาก ChatGPT สู่ Deepseek

ก่อนหน้านี้เมื่อ ChatGPT ได้เข้ามาในตลาด หลายองค์กรเริ่มนำไปใช้ในงานที่ต้องการความรวดเร็วและประหยัด เช่น การคิดคอนเทนต์หรือการวางแผนกลยุทธ์บางอย่าง ซึ่งเป็นการนำ AI เข้ามาช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ ทำได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้ใน 3 ขั้นตอนหลัก

1. การช่วยในกระบวนการทำงานขั้นต้น เช่น การคิดคอนเทนต์หรือวางแผนกลยุทธ์

2. การเชื่อมโยงงานหลายขั้นตอนให้เป็น Workflow ใช้ AI ช่วยในขั้นตอนต่าง ๆ จนกระทั่งงานเสร็จสมบูรณ์

3. การใช้ AI ร่วมกับคนในงาน เป็นการใช้ระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถในการควบคุมตัวเอง

แม้ว่า ChatGPT จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้ผลดีในหลายงาน แต่ในบางครั้งก็มีข้อจำกัดเรื่องต้นทุน โดยเฉพาะในกรณีขององค์กรที่ต้องใช้งาน AI หลายตัวในกระบวนการต่าง ๆ ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรสูงและมีต้นทุนการใช้งานที่แพง

ปัญหาของต้นทุนใน AI และการมาใหม่ของ Deepseek

แม้ว่า ChatGPT จะมีประสิทธิภาพในการทำงาน แต่มันมีต้นทุนที่สูง โดยเฉพาะในองค์กรที่ใช้ AI ในการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ ในบางกรณีจะต้องซื้อผ่าน Token ซึ่งเป็นการจ่ายค่าใช้บริการตามการใช้งาน ทำให้ต้นทุนในการใช้งาน AI สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

การมาของ Deepseek AI เข้ามาในตลาดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมันมีราคาถูกกว่า ChatGPT ถึง 44 เท่า โดยการใช้เทคโนโลยีที่เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของ ChatGPT และมีการพัฒนาระบบที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานสูงเท่าเดิม การออกแบบ Deepseek AI จึงสามารถช่วยลดต้นทุนในการใช้งาน AI โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้ AI หลายตัวในขั้นตอนต่าง ๆ

แนวทางการปรับกลยุทธ์การใช้ AI ในการตลาด

การที่ Deepseek AI ถูกพัฒนาและเข้ามาในตลาดทำให้หลายองค์กรต้องปรับกลยุทธ์ในการใช้ AI โดยเฉพาะในวงการการตลาด ที่ต้องใช้เครื่องมือในการพัฒนาเนื้อหา การวางแผนกลยุทธ์ หรือแม้กระทั่งการบริหารจัดการงานภายในบริษัท

1. การทดลองและเรียนรู้: ในช่วงที่ AI ยังไม่ถึงจุดที่สมบูรณ์ที่สุด การทดลองใช้เครื่องมือ AI ต่าง ๆ ในงานต่าง ๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเครื่องมือใดเหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กรของคุณ

2. ไม่ยึดติดกับเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง: เมื่อ AI กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราจึงควรเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาในตลาดและไม่ยึดติดกับเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง

3. การเลือกใช้ AI ตามกระบวนการ: ใช้ AI ในการทำงานที่สำคัญ และนำมันมาผสมผสานกับขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยี

AI เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตที่ยั่งยืนในธุรกิจ

การใช้ AI ในการตลาดนั้นไม่ได้หมายถึงการใช้แค่เครื่องมือที่มีความสามารถในการพัฒนา แต่หมายถึงการนำมันมาปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจและกลยุทธ์การตลาดที่ยั่งยืน เพราะในที่สุดแล้ว AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมประสิทธิภาพและการขยายตัวขององค์กร

ดังนั้น ความสำคัญในการใช้ AI ในการตลาดคือการนำเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ในแต่ละขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, Deepseek, หรือ AI ตัวอื่น ๆ ที่สามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำคือ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจหรือย้ายไปใช้ AI ใหม่ทั้งหมด ควรทดลองและศึกษาประสิทธิภาพของแต่ละเครื่องมือที่เหมาะสมกับงานของคุณ

การที่ Deepseek AI เปิดตัวและกลายเป็นที่นิยมในตลาด AI ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ต้นทุนการใช้งาน AI ถูกลงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ใช้ AI เราควรที่จะทดลองและปรับกลยุทธ์การใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ อย่าลืมทดลองใช้เครื่องมือหลาย ๆ ตัวเพื่อเรียนรู้ว่าตัวไหนให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดกับงานของเรา

และหากเพื่อน ๆ ต้องการดูคอนเทนต์เต็ม ๆอย่าลืมไปติดตามช่อง ดัดจริต ที่นี่: 
ดัดจริต | Better Way Forward

#AI #Deepseek #ChatGPT #เทคโนโลยี #การตลาด #การพัฒนาAI #การตลาดยั่งยืน